รู้หรือไม่ วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร นำไปทำ เชื้อเพลิงชีวมวล ได้

ในยุคปัจจุบันที่มนุษย์เผชิญกับปัญหาการขาดแคลนพลังงานและมลพิษทางสิ่งแวดล้อม การมองหา เชื้อเพลิง ทดแทน เชื้อเพลิงฟอสซิล ที่สะอาดและยั่งยืนจึงเป็นสิ่งสำคัญ วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร จึงกลายเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีปริมาณมหาศาล หาได้ง่าย และสามารถนำมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลได้หลากหลายรูปแบบ บทความนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ เชื้อเพลิงชีวมวล ที่ผลิตจาก วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ว่ามีประเภทใดบ้าง มีข้อดีอย่างไร และประเทศไทยของเรามีศักยภาพในการผลิต เชื้อเพลิงชีวมวลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมากน้อยแค่ไหน

ประเภทของเชื้อเพลิงชีวมวล จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร

เชื้อเพลิงชีวมวลที่ผลิตจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลักดังนี้

  1. เชื้อเพลิงแข็ง: เช่น ถ่านชีวมวล ผลิตจาก วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว แกลบ กากอ้อย เศษไม้ ฯลฯ
  2. เชื้อเพลิงเหลว: เช่น ไบโอดีเซล ผลิตจากน้ำมันพืชเหลือใช้ เช่น น้ำมันเมล็ดปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง ฯลฯ
  3. เชื้อเพลิงก๊าซ: เช่น ไบโอแก๊ส ผลิตจากมูลสัตว์ เศษพืช ฯลฯ

ข้อดีของ เชื้อเพลิงชีวมวล จาก วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร

เชื้อเพลิงชีวมวลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมีข้อดีดังนี้

  • เป็นพลังงานหมุนเวียน: ช่วยลดการพึ่งพา เชื้อเพลิงฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
  • ช่วยลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อม: การกำจัด วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ที่ไม่เหมาะสม เช่น การเผาไหม้ จะก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เชื้อเพลิงชีวมวล ช่วยลดปริมาณ วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ที่ต้องกำจัด และเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด
  • สร้างงานและสร้างรายได้: การผลิตและใช้ เชื้อเพลิงชีวมวล ช่วยสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชน
  • ส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน: ประเทศไทยสามารถพึ่งพาตนเองด้านพลังงานมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพา เชื้อเพลิงฟอสซิล จากต่างประเทศ

ศักยภาพของประเทศไทยในการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวล จากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร

ประเทศไทยมีวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรในปริมาณมาก ประมาณ 40-50 ล้านตันต่อปี วัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เหล่านี้สามารถนำมาผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลได้หลากหลายประเภท

  • ฟางข้าว: ประเทศไทยมีปริมาณฟางข้าวเหลือทิ้งประมาณ 20 ล้านตันต่อปี สามารถนำมาผลิตเป็นถ่านชีวมวล หรือไบโอแก๊ส
  • แกลบ: ประเทศไทยมีปริมาณแกลบเหลือทิ้งประมาณ 5 ล้านตันต่อปี สามารถนำมาผลิตเป็นถ่านชีวมวล หรือเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้า
  • กากอ้อย: ประเทศไทยมีปริมาณกากอ้อยเหลือทิ้งประมาณ 10 ล้านตันต่อปี สามารถนำมาผลิตเป็นถ่านชีวมวล หรือเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้า
  • เศษไม้: ประเทศไทยมีปริมาณเศษไม้เหลือทิ้งจากภาคป่าไม้และภาคเกษตรประมาณ 30 ล้านตันต่อปี สามารถนำมาผลิตเป็นถ่านชีวมวล หรือเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้า

เชื้อเพลิงชีวมวลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร เหล่านี้นอกจากจะช่วยลดปัญหา วัสดุเหลือทิ้งและลดมลพิษทางสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยสร้างพลังงานสะอาด สร้างงาน สร้างรายได้ และส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศไทยอีกด้วย

More articles